ฝาเหลือง คาซิดริล
ฝาเหลือง คาซิดริล PC

ฝาเหลือง คาซิดริล ยาแก้ไอ สรรพคุณโดดเด่น ยาสามัญประจำบ้าน

รู้จักกับยาแก้ไอสามัญประจำบ้าน ฝาเหลือง คาซิดริล ที่ในตอนนี้กำลังเป็นกระแสมาแรงในโลกออนไลน์ มียอดการค้นหาและสั่งซื้อในรูปแบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการสั่งซื้อโดยวัยรุ่นที่นิยมใช้ผสมกับเครื่องดื่มประเภทอื่นเพื่อสร้างความมึนเมา แต่อีกส่วนนึงก็สั่งซื้อเพื่อการใช้บรรเทาอาการไอ ละลายเสมหะเช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้วการใช้งานอย่างถูกต้อง และปลอดภัยมากที่สุดคุณจะต้องเรียนรู้ข้อมูลของยาแก้ไอชนิดนี้ก่อนนั่นเอง โดยเราได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาฝากทุกท่านในวันนี้ ทั้งสรรพคุณข้อดีและข้อเสีย การดื่มอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์ และผสมส่วนผสมที่สำคัญมากมายที่คุณต้องรู้

หัวข้อแนะนำ

ฝาเหลือง คาซิดริล(Casidryl) คืออะไรมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นก่อนใช้

สำหรับคำว่า ฝาเหลือง คาซิดริล เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อของยาแก้ไอชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะฝาสีเหลือง มีชื่อเรียกว่าคาซิดริล อยู่ในรูปแบบของยาแก้ไอน้ำเชื่อมทั้งฝาเงินและฝาเหลือง ดังนั้นเพื่อการใช้งานอย่างปลอดภัยคุณจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่ายาแก้ไอชนิดนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ส่วนผสมของไซรัปเท่านั้น 

แต่ยังคงมีสารประกอบอื่นที่อยู่ในยาแก้ไอ ซึ่งสารประกอบหลักก็คือ ไดเฟนไฮดรามีน เป็นสารที่จัดอยู่ในประเภทของฮิสตามีน ซึ่งจะออกฤทธิ์ยับยั้งฮิสตามีน สารสื่อประสาทที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบ ไม่ว่าจะเป็นการไอ ระคายคอ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสารชนิดนี้ถ้าใช้ในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ดีต่อร่างกายเช่นเดียวกัน ทำความรู้จักกันในวันนี้

ส่วนผสมสำคัญของยาแก้ไอ ฝาเหลือง คาซิดริล มีอะไรบ้าง

ส่วนผสมสำคัญของยาแก้ไอ ฝาเหลือง คาซิดริล มีอะไรบ้าง

รูปแบบยาแก้ไอ ฝาเหลือง คาซิดริล อยู่ในประเภทของยาน้ำที่มีการผสมตัวยาและส่วนผสมเพิ่มเติมเข้าไป ดังนั้นแล้วจึงทำให้ดื่มง่ายมากขึ้นกว่าการกินยาเม็ดนั่นเอง ซึ่งส่วนผสมภายในตัวยานั้นประกอบไปด้วย

  • กรดซิตริก
  • น้ำเชื่อมกลิ่นผลไม้
  • น้ำตาล 6.25 กรัมต่อมิลลิลิตร
  • สารประกอบตัวยาไดเฟนไฮดรามีนไฮโดรคลอไรด์

วิธีดื่มยาแก้ไอฝาเหลือง คาซิดริล อย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์

การที่คุณจะดื่มยาแก้ไอ ฝาเหลือง คาซิดริล อย่างปลอดภัยนั้นต้องอยู่ในการแนะนำของแพทย์ ซึ่งถ้าคุณปฏิบัติตามการใช้งานของแพทย์อย่างเคร่งครัดรับรองว่าไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน เพียงแค่คุณปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

  1. ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเกิน 7 วัน
  2. ไม่ควรรับประทานคู่กับยานอนหลับ หรือแอลกอฮอล์ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปควรรับประทานครั้งละ 10 มิลลิลิตรวันละ 3-4 ครั้ง
  3. ไม่ควรรับประทานกับยาที่มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยารักษาโรคจิตเวชหรือยารักษาอาการโรคซึมเศร้า

มารู้จักสรรพคุณด้านข้อดี และข้อเสีย ของยาแก้ไอชนิดนี้

รู้หรือไม่ว่าสรรพคุณของยาแก้ไอ ฝาเหลือง คาซิดริล ส่วนใหญ่แล้วจะมีความคล้ายกันกับยาแก้ไอยี่ห้ออื่น ๆ เช่น ยาแก้ไอไดเฟ็นดริล หรือไม่ว่าจะเป็นฝาเทค ซึ่งจะมีทั้งสรรพคุณที่เป็นข้อดีรวมไปถึง ข้อเสียเบื้องต้นของการใช้ยาประเภทนี้ โดยประกอบไปด้วย

ข้อดีของการใช้ยาแก้ไอฝาเหลือง คาซิดริล

ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือสรรพคุณทางยาที่จะช่วยบรรเทาอาการไอ การราคายเครื่องคอจากการอักเสบ และยังสามารถช่วยละลายเสมหะได้อีกด้วย และที่สำคัญคือการเป็นยาแก้ไอแบบน้ำเชื่อมหรือไซรัป จึงทำให้ดื่มง่ายรสชาติดี หากใครที่ไม่ชอบการกินยาเม็ด คุณสามารถเปลี่ยนมันเป็นยาชนิดน้ำอย่าง ฝาเหลืองคาซิดริล หรือยาแก้ไอ ฝาดาวแทนได้

ข้อเสียของการใช้ยาแก้ไอฝาเหลือง คาซิดริล

ในส่วนของข้อเสียสำหรับการใช้ยาแก้ไอ ฝาเหลือง คาซิดริล นั้น เป็นยาแก้ไอที่ออกฤทธิ์ทำให้เกิดอาการง่วงนอนหรือมีอาการง่วงซึม จึงไม่ควรใช้ในขณะขับขี่ยานพาหนะ และนอกจากนี้ยังเป็นยาแก้ไอที่ถ้ากินในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการดื้อยาและเกิดผลข้างเคียงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและชีวิตได้ โดยในผู้ใช้บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ความดันโลหิตต่ำ หรือปวดศีรษะ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของสารประกอบไดเฟนไฮดรามีนในยาที่ออกฤทธิ์ต่อร่างกายนั่นเอง

ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยาแก้ไอฝาเหลือง คาซิดริล เป็นอย่างมาก

สำหรับข้อกำหนดของการใช้ ฝาเหลือง คาซิดริล นอกจากจะทำตามคำแนะนำของแพทย์แล้วยังมีข้อควรระวังที่ต้องคำนึงถึงในส่วนของบุคคลที่ไม่เหมาะแก่การใช้ยาชนิดนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย

  • ไม่ควรใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี
  • ไม่ควรใช้ในหญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  • ไม่ควรใช้กับผู้ที่รับประทานยาร่วมกับโรคหัวใจและหลอดเลือด
ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยาแก้ไอฝาเหลือง คาซิดริล เป็นอย่างมาก

วิธีเก็บรักษายาแก้ไอฝาเหลือง คาซิดริล

การจัดเก็บรักษายาแก้ไอ ฝาเหลือง คาซิดริล หรือไม่ว่าจะเป็นยาแก้ไอฝาเทาแท้หรือไดเฟ็นดริลราคาถูก มีวิธีการจัดเก็บรักษาตัวยาที่เหมือนกัน วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บการรักษาที่ดีจะช่วยให้ตัวยาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้อย่างปลอดภัย โดยขอแนะนำให้คุณเก็บในที่แห้งและเย็นซึ่งจะต้องมีอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ควรเก็บยาให้พ้นกับมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และก่อนการรับประทานต้องเช็ควันหมดอายุก่อนเสมอ และหากคุณพบความผิดปกติของฉลากหรือตัวยาภายในควรทิ้งทันทีไม่ควรรับประทาน

บทความแนะนำ

Scroll to Top